ทำความรู้จักกับ UV Filter ชนิดละลายน้ำ ในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด

UV Filter ประเภทอินทรีย์ (Organic UV filter) หรือแบบเคมี (Chemical sunscreen) ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสารประเภทละลายน้ำมัน ซึ่งเมื่อต้องใช้ในปริมาณที่สูงเพื่อให้มีประสิทธิภาพการกันแดดที่ดีก็ต้องแลกมากับสัมผัสที่เหนียวเหนอะหนะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เมื่อทาแล้วไม่สบายผิว…

UV Filter ประเภทอินทรีย์ (Organic UV filter) หรือแบบเคมี (Chemical sunscreen) ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสารประเภทละลายน้ำมัน ซึ่งเมื่อต้องใช้ในปริมาณที่สูงเพื่อให้มีประสิทธิภาพการกันแดดที่ดีก็ต้องแลกมากับสัมผัสที่เหนียวเหนอะหนะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เมื่อทาแล้วไม่สบายผิว หรืออาจเพิ่มความมันบนผิว

จะดีกว่าไหมถ้ามีตัวเลือกที่มากกว่า คือ UV Filter ชนิดละลายน้ำ ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับรังสี UV ได้สูง มีความเสถียรสูง และ UV Filter กลุ่มนี้ยังอ่อนโยนต่อผิว ทั้งเข้ากับสารอื่นๆในสูตรได้ดี สามารถทำสูตรเบสน้ำ เช่น Spray หรือ Gel ใสได้ หรือในสูตรเบส Emulsion ปกติ UV Filter ชนิดละลายน้ำจะช่วยในเรื่องการลดความมันของสูตร และยังเสริมประสิทธิภาพการป้องกันได้ดียิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกันกับ UV Filter ชนิดละลายน้ำมัน

Terephthalylidene Dicamphor Sulfonic Acid (TDSA) หรือชื่อทางการค้าของเราคือ Sunabsorb Talo ซึ่งโมเลกุลของสารนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย L`Oréal ตั้งแต่ปี 1982 (Mexoryl SX) และได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์และการวิจัยว่าสามารถป้องกันรังสี UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าครีมกันแดดที่ประกอบด้วย TDSA 5% สามารถป้องกันไม่ให้ผิวของเราชราก่อนวัยอันควร (Aging) และช่วยลดความเสียหายของผิวที่เกิดจาก UVA ได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงลดการสร้างเม็ดสีและการก่อตัวของโรคในระดับ DNA

โดยก่อนที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆจะสามารถใช้สารนี้ในสูตรได้ ทาง L`Oréal ได้สารนี้ในผลิตภัณฑ์กันแดดหลายแบรนด์ โดยเฉพาะใน La Roche-Posay และ Vichy

ข้อกำหนดปริมาณการใช้อยู่ที่ 10% คำนวณในรูปกรด

Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid (PBSA) หรือชื่อทางการค้าของเราคือ Sunabsorb Pando เป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับได้ทั้งรังสี UVB และ UVAII (เล็กน้อย) จึงสามารถช่วยปกป้องไม่ให้ผิวของเราไหม้ (Sunburn) และลดการทำลายชั้นผิวหนังกำพร้าที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวเป็นฝ้าและผิวคล้ำในระยะยาว

สามารถพบการใช้สารนี้ในสูตรผลิตภัณฑ์ต่างๆของแบรนด์ชั้นนำได้ เช่น Nivea, Eucerin

ข้อกำหนดปริมาณการใช้อยู่ที่ 8% คำนวณในรูปกรด